The switch statement

Switch statement ก็คล้ายๆกับ if statement มันจะแสดงเป็นรายการของความเป็นไปได้ของเงื่อนไขและแสดงทางเลือกหลัก (default) ถ้าเงื่อนไขในรายการไม่มี หน้าตาจะเป็นดังนี้

int number = 1;
switch(number)
{
    case 0:
    Console.WriteLine("The number is zero!");
    break;
    case 1:
    Console.WriteLine("The number is one!");
    break;
}

ตัวแปร identifier เราจะใส่หลัง switch keyword แล้วก็จะตามด้วยรายการเงื่อนไขใน case statement โดยการเปรียบเทียบกับตัวแปร identifier เรายังมี break statement ในทุกๆ case อีกด้วย ถ้าเราใช้ function เราสามารถใช้ return statement แทน break statement ได้

ในตัวอย่างนี้เราใช้ integer แต่เราก็ใช้ string ได้เหมือนกัน เรายังามารถเปลี่ยนแปลงค่าใน switch statement ได้ด้วย ดังตัวอย่าง

Console.WriteLine("Do you enjoy C# ? (yes/no/maybe)");
string input = Console.ReadLine();
switch(input.ToLower())
{
    case "yes":
    case "maybe":
    Console.WriteLine("Great!");
    break;
    case "no":
    Console.WriteLine("Too bad!");
    break;
}

ตัวอย่างนี้ เราจะถามผู้ใช้ว่า yes, no, หรือ อาจจะ เราจะอ่านข้อมูลของผู้ใช้ แล้วสร้าง switch statement เราจะช่วยผู้ใช้ในการแปลงอักษรให้เป็นตัวเลขทั้งหมด การประมวลผลจะได้ไม่เป็นปัญหา เมื่อผู้ใช้ใส่อักษรตัวใหญ่

ถ้าผู้ใช้ใส่ข้อมูลที่ไม่ใช่ yes, no, หรือ อาจจะ มันจะแสดงผลลัพธ์ของทางเลือกหลัก (default)

Console.WriteLine("Do you enjoy C# ? (yes/no/maybe)");
string input = Console.ReadLine();
switch(input.ToLower())
{
    case "yes":
    case "maybe":
    Console.WriteLine("Great!");
    break;
    case "no":
    Console.WriteLine("Too bad!");
    break;
    default:
    Console.WriteLine("I'm sorry, I don't understand that!");
    break;
}

ถ้าเงื่อนไขในรายการไม่มี มันจะแสดงผลลัพธ์ของทางเลือกหลัก (default) ดังตัวอย่างด้านบน